5 เทรนด์สุขภาพใหม่มาแรงในปี 2567

พ. 14 ก.พ. 67

5 เทรนด์สุขภาพใหม่มาแรงในปี 2567 ดูแลสุขภาพแบบยั่งยืนให้แข็งแรงตลอดปี 

ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะแวดล้อมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น ไลฟ์สไตล์ในเรื่องการดูแลสุขภาพที่มักจะมีเทรนด์ใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ ซึ่งการมีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดีอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ เพราะฉะนั้นการหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างถูกวิธีในแบบองค์รวมจึงเป็นเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และทั้งหมดนี้คือเทรนด์สุขภาพที่มาแรงในปี 2567 

 

 

อาหาร Plant-based โปรตีนจากพืช

ในปีที่ผ่านมา Plant-based หรือโปรตีนจากพืชได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีการติด #plantbased บน TikTok ถึง 1 พันล้านครั้ง และ #highprotein 2 พันล้านครั้ง จึงคาดว่าในปี 2567 อาหาร Plant-based หรือโปรตีนจากพืชจะเป็นที่นิยมมากขึ้น Plant-based หรือโปรตีนจากพืช คืออาหารกลุ่มโปรตีนทางเลือกที่ทำจากพืชธรรมชาติให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว, เห็ด, สาหร่าย, ข้าวโอ๊ต, อัลมอนด์, ธัญพืช, แคร์รอต, ฟักทอง เป็นต้น โดยจะนำวัตถุดิบเหล่านี้มาผสมผสานกับเทคโนโลยีเพื่อสร้างเป็นอาหารเลียนแบบเนื้อสัตว์ที่มีรสชาติ รูป และกลิ่นที่ใกล้เคียงเนื้อสัตว์มากที่สุด การกินอาหารแบบ Plant-based จะช่วยเพิ่มการได้รับวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหาร ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด และยังช่วยลดอาการท้องอืดได้ด้วย

 

 

การกินแบบ Balanced Diet กินอาหารอย่างสมดุล

การกินแบบ Balanced Diet หรือกินอาหารให้สมดุลในสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งประเภทและปริมาณ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ มีสภาวะสุขภาพและน้ำหนักตัวที่สมดุล ด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ครบถ้วน รวมถึงกินอาหารให้มีความหลากหลาย ไม่กินเมนูเดิมติดกัน กินในปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของร่างกายและกับการใช้พลังงานในแต่ละวัน กินผักใยและผลไม้อย่างน้อย 2-3 กำปั้นต่อวัน เพื่อเพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ กินน้ำมันจากพืชเป็นหลัก เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันพิสตาชิโอ เพราะเป็นแหล่งไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง และดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร  หรือประมาณ 8 แก้วต่อวัน 

TIP : จัดจานอาหารแบบ 2:1:1 อย่างน้อย 1 มื้อต่อวัน จัดผักให้อยู่ในปริมาณ 2 ส่วนของจาน เนื้อสัตว์ 1 ส่วน ข้าว 1 ส่วน จะได้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 500 กิโลแคลอรีต่อจาน หากกินครบ 3 มื้อ จะได้พลังงานประมาณ 1,500 กิโลแคลอรีต่อวัน (ปกติร่างกายเราต้องการพลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน อ้างอิงจาก Thai RDA) ระหว่างวันสามารถกินของว่างหรือเครื่องดื่มได้ตามเหมาะสมโดยดูพลังงานจากฉลากโภชนาการไม่ให้พลังงานเกินความต้องการที่ควรได้รับต่อวัน

 

 

กินแบบ Sustainability เพื่อลด Food Waste 

การกินแบบ Sustainability คือการกินเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หยุดการทำลายธรรมชาติจากการบริโภคอย่างขาดสติ ซึ่งการเปลี่ยนมากินแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ช่วยเพิ่มความยั่งยืนของโลกและแหล่งทรัพยากร นอกจากนี้ยังช่วยลดขยะอาหาร หรือลด Food Waste ปัญหาขยะล้นโลกได้อย่างยั่งยืนด้วย ไม่ว่าจะเป็น การปลูกผักกินเอง กินอาหารให้หมดหรือสั่งเท่าที่กินไหว ใช้อาหารทุกส่วนให้คุ้มค่า เช่น นำแกนสัปปะรดมาหมักทำน้ำยาล้างจานเพื่อให้เหลือขยะทิ้งน้อยที่สุด ลดการกินเนื้อสัตว์หรือเปลี่ยนมากินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์แทน กินอาหารตามฤดูกาลหรือวัตถุดิบท้องถิ่น เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานจากเกษตรอุตสาหกรรม ลดพลังงานในการขนส่ง ลดพลังงานและสารเคมีในการเพาะปลูก ช่วยให้เกษตรกรไม่ใช้สารเคมีเพื่อเร่งผลผลิตให้ออกทุกฤดูกาล

 

 

การออกกำลังกายแบบ Group Exercise 

การออกกำลังกายแบบกลุ่ม หรือ Group Exercise คือการออกกำลังกายที่เทรนเนอร์ออกแบบและจัดท่าให้ใช้การเคลื่อนไหวได้หลากหลาย หรือใช้ทักษะร่างกายในด้านต่างๆ แบบจัดเต็ม ช่วยเพิ่มทักษะร่างกายทั้งความสมดุล ความคล่องตัว การทำงานประสานกันของส่วนต่างๆ นอกจากนี้ การออกกำลังกายแบบกลุ่มยังช่วยให้มีแรงผลักดันที่ดีในการออกกำลังกายได้มากขึ้น ใครที่กำลังรู้สึกเบื่อ หรือหมดไฟในการออกกำลังกาย ลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายเป็นกลุ่มดู อาจทำให้การออกกำลังกายของคุณสนุกกว่าเดิม แถมอาจได้เพื่อนใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกันด้วย

 

 

กินอาหารเช้าแบบ Ichiju Sansai สไตล์ญี่ปุ่น 

การกินอาหารเช้าแบบ Ichiju Sansai (อิชิจู-ซันไซ) เป็นอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำให้คนญี่ปุ่นสุขภาพดี เป็นเซตอาหารเช้าที่ประกอบไปด้วย ซุปหนึ่งอย่างกับข้าวสามอย่าง เสิร์ฟคู่กับข้าวและเครื่องเคียง (ผักหรือผักดอง) จานหลักจะเป็นอาหารที่ให้โปรตีน เช่น ปลา ไข่ หรือเต้าหู้ อาหารในเซตส่วนมากจะใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล เป็นอาหารเช้าแบบ Balance Diet ความอิ่มจะอยู่ที่ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของกระเพาะอาหาร แต่ได้สารอาหารครบ 5 หมู่ในมื้อเดียว ไม่เน้นของทอดหรือไขมันที่เยอะเกินความจำเป็น ซึ่งการกินแบบ Ichiju Sanasi ต้องกินอาหารในเซตสลับไปมาเพื่อไม่ให้กินอย่างใดอย่างหนึ่งเยอะเกินไป ค่อยๆ กินเนื้อสัตว์ กินข้าว กินซุป กินผัก แล้วกินสลับไปเรื่อยๆ ถือเป็นการกินอาหารเช้ารับวันใหม่ที่มีคุณภาพและดีกับสุขภาพอีกด้วย 

M Card